Marbo สตอเบอรี่ ฟรีเบส

Marbo สตอเบอรี่ ฟรีเบส น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า Freebase – Marbo Ice Strawberry 30 ml – มาโบสตรอเบอรี่เย็น [เย็นดีกรี 2/5] กลิ่นสตรอเบอรี่ หวาน หอม เข้ม มีความเปริ้ยวของสตรอเบอรี่หน่อยๆ Marbo สตอเบอรี่ ฟรีเบส ลงตัวสุดๆ เย็นสดชื่น เฮียใหญ่จัดให้สายผลไม้ Salt Hup ค่ายนี้ไม่เคยทำให้ไม่สมหวัง มาพร้อมด้วยนิโคติน 6mg.

  • Brand : Salt Hup
  • Flavor : Strawberry
  • Bottle Size : 30ML
  • Nicotine Level : 6MG
  • VG/PG : 40/60

น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า Marbo สตอเบอรี่ ฟรีเบส กลิ่นใหม่เอาใจสายหวาน

น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า Marbo strawberry Freebase ที่มีทั้งความหวาน ทั้งความหอม เป็นอีกหนึ่งน้ำยาสีชมพูที่น่าเฝ้าดูมองและน่าดึงดูดอย่างยิ่ง ด้วยมูลค่าและราคาที่ไม่ราคาแพง หาซื้ออได้ไม่ยาก แต่ว่ามาพร้อมทั้งความหวานที่กำลังพอดี ความเย็นที่กำลังลงตัวก็เลยทำให้เป็นอีกหนึ่งน้ำยาที่น่าจำลองอย่างยิ่ง

ทำไมควรต้อง MARBO STRAWBERRY FREEBASE

ด้วยความหอมหวานที่เป็นเอกลักษณ์ที่มาพร้อมกลิ่นของสตอเบอร์รี่ ที่เช่นเดียวกับสตอเบอร์รี่ แท้มาอยู่ภายในปากของพวกเรานำมาซึ่งการทำให้เป็นอีกหนึ่งน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ที่น่าสนใจ และน่าจับเลือกมาใช้งานเป็นตัวเลือกเฟ้น ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะว่า ความหวานที่กำลังพอดี ความเย็นที่กำลังลงตัว และ นิโคตินที่ไม่สูงเกินความจำเป็น จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่น่า เลือกเฟ้นมาสูบดูด้วยด้วยเหมือนกัน

บุหรี่ไฟฟ้ามีคุณภาพมากกว่า NRT ถึงสองเท่าสำหรับในการเลิกบุหรี่

คำตอบของการทดทดลองแบบสุ่มที่พึ่งเปิดตัวใหม่บ่งบอกว่าผู้สูบบุหรี่ที่เปลี่ยนแปลงมาใช้การสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้นมีทิศทางที่จะเลิกบุหรี่อย่างถาวรมากยิ่งกว่าทวีคูณเมื่อเปรียบกับการบำบัดทดแทนนิโคตินแบบเดิม (NRTs) ภายในหมู่ของคนซื้อบุหรี่ไฟฟ้า นี่เป็นเนื้อหาข้อมูลข่าวสารเก่าแล้ว แต่ผลสำรวจของสหรัฐในขณะนี้เจาะจงว่าโดยประมาณ 45 เปอร์เซ็นต์ของพลเมืองทั่วไปรู้เรื่องไม่ถูกว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนๆ หนึ่งพอๆ กับการสูบบุหรี่ และอีก 9 เปอร์เซ็นต์มั่นใจว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้นห่วยแตกกว่า

เรื่องเล่าที่เกี่ยวพัน : โพลใหม่เปิดเผยว่า 45% ของสหรัฐอเมริกาเชื่อไม่ถูกๆ ว่า บุหรี่ไฟฟ้านั้น ‘เป็นอันตราย’ เท่ากับการสูบบุหรี่

การศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยใหม่ที่นำโดย Dr. Peter Hajek จากสถาบัน Wolfson Institute of Preventionative Medicine ที่สถาบันอุดมศึกษา Queen Mary ในลอนดอน เริ่มต้นโดยการสุ่มเลือกเฟ้นผู้ใหญ่ 886 คนเพื่อเข้าร่วมสำหรับเพื่อการทดลองทางคลินิก ผู้เข้าร่วมเป็นผู้สูบบุหรี่ในปัจจุบันหรือในยุคเก่า ซึ่งได้รับการบริการที่ได้รับทุนส่งเสริมจากรัฐบาลสำหรับการให้คำแนะนำการเลิกบุหรี่ผ่านบริการสุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักรอย่างขมีขมัน

ก่อนหน้าที่เราจะกล่าวถึงงานวิจัยที่ออกมา คนไม่ใช่น้อยคงจะะมีข้อสงสัยและปัญหาว่า แล้ว NRT เป็นยังไง? มีแบบไหนบ้าง? พวกเราไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับ NRT กันก่อนเลย

NRT คือ อะไร?

(Nicotine Replacement Therapy) หรือแปลเป็นไทยก็คือ การบำบัดทดแทนนิโคตินเพื่อที่จะช่วยให้ท่านเลิกบุหรี่ เนื่องมาจากนิโคตินเป็นสารเสพติดหลักในยาสูบ เมื่อคนใช้ยาสูบ หลากหลายส่วนของร่างกายรู้จักกับการมีนิโคตินอยู่ด้านในตัว เมื่อคนเลิกบุหรี่ ก็เปลี่ยนเป็นว่าเลิกนิโคตินไปด้วยและอาจมีอาการถอนจากนิโคติน เหตุเพราะต้องทำให้ร่างกายนั้นชินกับการไร้นิโคติน

NRT (Nicotine Replacement Therapy) เป็นยาที่ให้นิโคตินในลำดับชั้นต่ำ แต่ไร้สารเคมีที่เป็นพิษอื่น ๆ ที่มีอยู่ด้านในควันบุหรี่ อาทิเช่น ทาร์และคาร์บอนมอนอกไซด์

ชนิดของ NRT

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้อนุมัติ 5 รูปแบบการบำบัดทดแทนนิโคติน (NRT):

  • แผ่นแปะ
  • หมากคนต่างประเทศ
  • ยาพ่นจมูก
  • ยาสูดพ่น
  • ยาอม

ผลข้างเคียงของ NRT

NRT เป็นยาที่ไม่เป็นอันตราย คนที่ใช้มักไม่ค่อยมีปัญหา เหมือนกับยาอื่นๆ แต่คุณควรจะอ่านคำแนะนำก่อนใช้ NRT หรือรับคำเสนอแนะจากแพทย์ทั่วไปหรือเภสัชกรของคุณด้วย บางบุคคลคงได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ NRT ซึ่งรวมทั้ง:

  • ระคายเคืองผิวหนัง เจ็บกล้ามเนื้อ และตึง เมื่อใช้แผ่นแปะ
  • จิตใจเต้นแรง
  • นอนหลับยาก (นอนไม่หลับ) บางครั้งบางคราวก็มีความฝันที่แจ่มแจ้งมาก
  • ท้องไส้ปั่นป่วน
  • อาการวิงเวียนศีรษะ
  • ปวดหัว
  • ผลข้างเคียงอะไรบางอย่าง ดังเช่นว่า หัวใจเต้นแรง คงจะเกิดขึ้นเนื่องจากปริมาณนิโคตินสูงเกินไปเพื่อคุณ คุณอาจมีลักษณะอาการถอนนิโคตินได้ถ้าจำนวน NRT ของคุณต่ำเกินไป

การสูบบุหรี่ไฟฟ้าไม่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดโรคหอบหืด งานศึกษาค้นคว้าสากลบอกให้เห็นสิ่งที่ตรงกันข้าม

เมื่อไม่ยาวนานมานี้ สถาบันอุดมศึกษา Johns Hopkins (JHU) ประกาศว่าวิธีการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มเติมจังหวะที่จะถูกตัดสินว่าเป็นโรคหอบหืดหรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) แม้กระนั้น การศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยในอดีตบ่งบอกว่าสิ่งที่ดิ่งกันข้ามนั้นมีลักษณะท่าทางที่จะเป็นจริงมากมายยิ่งกว่า เป็นต้นว่า งานวิจัยก่อนหน้าที่ผ่านมาที่ดำเนินงานโดยนักวิจัยจากสถาบันอุดมศึกษา Catania ในอิตาลีชี้ให้เห็นว่าผู้สูบบุหรี่ที่เป็นโรคหอบหืดจะปรากฏพัฒนาการเป็นอย่างมากในจำนวนและความรุนแรงของการการกำเริบของโรคหอบหืดเมื่อเปลี่ยนไปใช้การสูบบุหรี่ไฟฟ้าแทน

ปัญหาด้านงานศึกษาค้นคว้าของ Johns Hopkins เหล่านี้ก็คือพวกเขานิยมจะเผลอที่จะนำเอาที่มาที่ไปการสูบบุหรี่ไฟฟ้าและความเป็นมาทางการแพทย์ของผู้ร่วมที่เกี่ยวเนื่องเข้ามาไตร่ตรองร่วมกับการศึกษาวิจัยของหมวดหมู่เขา ในรายงาน JHU ฉบับเดี๋ยวนี้ที่เปิดเผยแพร่เมื่อวันที่ 7 เดือนมกราคม นักศึกษาค้นคว้าได้รวบรวมข้อมูลจากผู้ที่สูบบุหรี่ซึ่งเปลี่ยนไปใช้บุหรี่ไฟฟ้าด้วยตัวเราเองในณ เวลาปี 2016 ถึง 2017

น่าเสียดายที่กลุ่ม JHU ล้มเหลวอีกครั้งสำหรับในการไต่ถามผู้ร่วมพวกนั้นในณ เวลาเริ่มต้นว่าหมวดหมู่เขาเคยสูบบุหรี่ หรือสินค้ายาสูบที่ติดไฟได้หรือว่าหมู่เขาเคยมีประวัติของโรคหอบหืดมาก่อนไหม นอกจากนี้นี้ “ผลการค้นคว้า” ทั้งปวงมีต้นเหตุมาจากข้อมูลที่ผู้ร่วมรายงานด้วยตัวของเราเอง ซึ่งหมายความว่านักศึกษาค้นคว้าไม่เคยตรวจตราว่าข้อมูลที่ให้เป็นความใช่หรือไม่เป็นความใช่หรือไม่

รูปรวมของงานวิจัยเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าของ WOLFSON

การเรียนรู้เรื่อง A Randomized Trial of E-Cigarettes vs Nicotine-Replacement Therapy ได้รับการตีพิมพ์ในเดือนก.พ. 2019 ผ่านทาง New England Journal of Medicine (NEJM) เป็นเวลา 90 วัน ผู้เข้าร่วมแต่ละคนได้รับสินค้าที่หมวดหมู่เขาคัดสรรค์แบบไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อจะช่วยในการเลิกบุหรี่ ตัวคัดเลือกของหมวดเขารวมถึง NRT ปริมาณมากตัวอย่างเช่นแพทช์ (แผ่นแปะ) ที่เสริมนิโคติน ยาอมและหมากฝรั่ง ผู้ร่วมยังได้รับคัดสรรค์ให้คัดเลือก “บุหรี่ไฟฟ้าชุดเริ่มตั้งแต่ต้น” ซึ่งแถมยังมีเครื่องไม้เครื่องมือบุหรี่ไฟฟ้าแบบเติมได้รุ่นลำดับที่สองและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่เสริมด้วยความเข้มข้นของนิโคตินที่ 18 มก.

ผู้เข้าร่วมที่คัดเลือกบุหรี่ไฟฟ้ายังสามารถปรับเปลี่ยนความเข้มข้นของนิโคตินได้ถ้าต้องการตลอดการทดทดลอง หมู่เขายังสามารถคัดสรรค์รสชาติของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่หมวดหมู่เขาชอบได้อีกต่างหาก

3 งานวิจัยเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า

คุณเคยสังเกตไหมว่ามีเนื้อหาข้อมูลข่าวสารแง่ลบเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในสื่อกระแสหลักในทุกวันมากมายยิ่งกว่าข่าวสารเกี่ยวกับการสูบบุหรี่? สาธารณสุขของอังกฤษในอังกฤษยอมรับต่อสาธารณชนตั้งแต่ปี 2016 ว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ แต่การรณรงค์บิดเบือนข้อมูลที่กำเนิดขึ้นเป็นกิจวัตรโดยหมู่ต่อต้านการสูบบุหรี่ไฟฟ้า นำมาซึ่งการทำให้ชาวอเมริกันหลายล้านคนเชื่อเรื่องอย่างผิด ๆ ว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายถึงชีวิตพอ ๆ กับบุหรี่แบบเริ่มแรก นี่คือรายการสั้น ๆ ของ 3 งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว ซึ่งทำให้พบความจริงได้อย่างปฏิเสธมิได้ว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้นช่วยชีวิตได้

1. ควันระเหยมือสองของบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้รวมตัวกันด้วยฟอร์มาลดีไฮด์

ตำช้านานเอกสาราลดีไฮด์อาจเป็นครั้งแรกที่บรรลุความสำเร็จในการผลักดันทฤษฎีสมคบคิดเพื่อจะโจมตีชุมชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าในเกรดสากล แสดงตัวตัวครั้งแรกในเครือข่ายสังคมออนไลน์และสื่อกระแสหลักจนกระทั่งปี 2015 เนื้อหาข้อมูลข่าวสารลือเริ่มตอนนี้ตั้งแต่ต้นขึ้นเมื่อเกิดการตีพิมพ์เรื่องเล่าวิจัยใน New England Journal of Medicine (NEJM) ซึ่งพูดอิงถึงประเด็นนี้ แม้กระนั้น ในทันทีที่ตีพิมพ์ นักความรู้และนักวิทยาศาสตร์จากทั่วทั้งโลกเริ่มทบทวนงานวิจัย

เห็นได้ชัดได้ชัดว่ามีการตรึกตรองอย่างเร็วทันใจว่านักเขียนร่วมของงานวิจัยปลอมนี้ ได้ส่งผลให้อุณหภูมิความร้อนของอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้สำหรับเพื่อการทดลองสูงขึ้นโดยมิได้ใส่ใจหรือโดยเจตนา ซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดกันสามารถทนได้ การเรียกร้องให้ถอดถอนงานศึกษาค้นคว้านี้ตามมาในไม่ช้า และศูนย์สั่งการและคุ้มครองป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) ได้ทำให้พบความจริงหักล้างแนวความคิดแบบฟอร์มาลดีไฮด์ด้วยการเผยแพร่ผลการเรียนรู้ของตัวเองเองในประเด็น การวัดการได้รับสารเคมีที่ร้านรวงบุหรี่ไฟฟ้าผ่านทางเว็บไซต์ของ CDC

2. การแปรไปใช้บุหรี่ไฟฟ้าแทนการสูบบุหรี่ช่วยลดการสัมผัสสารก่อมะเร็ง

ในช่วงแรกๆ ของกระแสบุหรี่ไฟฟ้า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจำนวนมากบากบั่นโต้โต้เถียงว่าถ้าผู้สูบบุหรี่ควรจะเป็นเลิกบุหรี่ ก็ควรที่จะใช้การบำบัดตอบแทนนิโคตินแบบเดิม (NRT) ดังเช่นว่า แผ่นแปะนิโคติน หมากชาวต่างชาติ และลูกอม แน่นอน ผู้สูบบุหรี่หลายล้านคนได้พยายามใช้ผลิตภัณฑ์ของ Big Pharma เหล่านี้แล้ว และพบว่าผลิตภัณฑ์พวกนี้ไม่ได้ผลอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อ Dr. Maciej L. Goniewicz จาก Roswell Park Comprehensive Cancer Center ในนิวยอร์ก เปิดเผยแพร่งานศึกษาค้นคว้าที่เน้นความเป็นพิษที่เทียบได้ของ NRT แบบเดิมและการสูบบุหรี่ไฟฟ้า โลกจะต้องตกอกตกใจเมื่อรู้ดีว่าควันระเหยที่ผลิตโดยบุหรี่ไฟฟ้าช่วยลดการสัมผัสกับสารก่อมะเร็งของผู้ซื้อ มากถึงร้อยละ 95 งานวิจัยเรื่อง Exposure to Nicotine and Selected Toxicants ในผู้สูบบุหรี่ที่แปลงมาใช้บุหรี่ไฟฟ้า: A Longitudinal Inside-Subjects Observational Study ได้รับการตีพิมพ์ผ่าน Oxford Academic Nicotine and Tobacco Research

3. การแปรไปใช้บุหรี่ไฟฟ้าช่วยเพิ่มการทำงานของปอดของผู้สูบบุหรี่ที่เป็นโรคหอบหืด

จนกระทั่งเมื่อไม่นานนี้ ผู้สูบบุหรี่ที่ป่วยด้วยโรคหอบหืดจำเป็นจะต้องเผชิญกับโอกาสทางที่แทบไม่มีวัน หมวดเขาจะสูบบุหรี่ต่อไป โดยทราบว่าการสูบบุหรี่นำมาซึ่งการทำให้อายุขัยสั้นลงหลายปีสำหรับการสูบทุกๆ ครั้ง พวกเขาสามารถเฟ้นที่จะเลิกสูบบุหรี่ด้วยแนวทางหักดิบหรือวิธีการใช้ NRT ที่นำมาซึ่งการทำให้มีความเครียดสูงแต่ไม่เป็นผล ซึ่งอาจส่งผลให้อาการหอบหืดของหมวดหมู่เขาห่วยแตกลงไปอีก หรือหมวดเขาสามารถเปลี่ยนไปใช้การสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่เป็นอันตรายต่ำลงมากยิ่งกว่า 95 เปอร์เซ็นต์

โชคดีที่งานวิจัยปี 2014 ที่ตีพิมพ์โดย Dr. Riccardo Polosa จาก Institute of Internal Medicine and Clinical Immunology ที่ University of Catania ประเทศอิตาลี เจาะจงว่าการแปรไปใช้การสูบไอสามารถย้อนกลับความเสื่อมโทรมของปอดในคนที่เป็นโรคหืด ในเวลาเดียวกันก็ลดความเร่าร้อนและความถี่ของการโจมตีที่เกี่ยวกับโรคหอบหืด . การเรียนรู้เรื่องผลกระทบของการเลิกบุหรี่และการลดการสูบบุหรี่ในผู้สูบบุหรี่ที่เป็นโรคหืดที่เปลี่ยนมาบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์: หลักฐานการเปลี่ยนรายการที่เป็นอันตรายยังอาจมีอยู่ผ่านทางหอสมุดแพทยศาสตร์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา

 

greatnewtoys